วันอังคารที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2555

จุดประทับใจ


 
 
 
                                             
 
การเดินทางมาเที่ยววัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ”วัดพระแก้ว”
    วิธีที่สะดวก มี 2 วิธี คือ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว และรถโดยสาร
    ประจำทาง แต่ถ้าชอบการเดินทางแบบชมธรรมชาติก็สามารถเดินทางโดยเรือ
 
 
 
                       
      
 
     เมื่อคุณเดินทางมาถึงวัดพระแก้ว ก่อนที่เราจะเข้าไปภายในตัววัด
ก็จะพบฝูงนกพิราบอาศัยอยู่รวมกันนับร้อย บริเวณสวนหย่อมเล็กๆ
               ถ้าคุณต้องการถ่ายรูปหรือให้อาหารนกพิราบก็สามารถเข้าไปใกล้ๆได้
                เพราะพวกมันมีความคุ้นเคยกับผู้คน
 
 
 
 
 
 

จุดเด่นแรก ที่น่าสนใจ คือ พระศรีรัตนเจดีย์  พระมณฑป
และปราสาทพระเทพบิดร ซึ่งมีความสวยงามและสมบูรณ์แบบ
 
 
 
 
        
 
      ถึงแม้วัดพระแก้วจะตั้งอยู่ในใจกลางเมือง แต่นักท่องเที่ยวทั้งไทย
           และเทศก็นิยมมาเที่ยวที่วัดแห่งนี้กันอย่างไม่ขาดสาย เนื่องจากวัดพระแก้ว
        แห่งนี้มีลักษณะที่โดดเด่นในเรื่องของศิลปะการออกแบบที่มีความสวยงาม
 
 
 
 
 
                                                 
                                                
 
 
 

 
                              เมื่อเข้ามาเราจะพบกับรูปปั้นฤษีนั่ง  ฤษีท่านนี้
          คือ “หมอชีวกโกมารภัจจ์”  ท่านเป็นที่นับถือของผู้ที่ศึกษาทางด้านการแพทย์
แผนโบราณ รวมทั้งผู้คนที่เจ็บไข้ได้ป่วยก็มักจะมาขอพรจากท่าน
 
 
 
 
 

 
          นี่คือ ยักษ์ทวารบาล ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันสิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้ามาใน
     บริเวณวัดซึ่งยักษ์ตนนี้มีจุดเด่น คือ มีลักษณะตนเล็กและเป็นสีทอง ตั้งอยู่
    ด้านข้างพระอุโบสถวัดพระแก้ว
             
 
 
 
 
 
 

 
        เมื่อเดินขึ้นบันไดมาก็จะพบกับ พระมณฑป  ซี่งพระมณฑปจะอยู่ระหว่าง
    พระศรีรัตนเจดีย์ กับปราสาทพระเทพบิดร
 
 
 
 
 
 
 
 

 
     ถ้าหันไปทางซ้ายมือ ก็จะพบกับพระศรีรัตนเจดีย์ที่มีสีเหลือง
 ทองอร่ามเห็นเป็นได้ชัด
                   
 
 
 
 
 
      
                
             
 
 ถัดมาก็จะเป็นปราสาทพระเทพบิดร  สำหรับตัวปราสาทเป็น
    ทรงจตุรมุขคือมีมุขออกมาสี่ด้าน ตรงกลางเป็นยอดปรางค์ซึ่ง       
    นับเป็นปราสาทยอดปรางค์เพียงองค์เดียว 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
              
 
 
      ภาพนี้คือ พระอุโบสถวัดพระแก้ว ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต          
 หากท่านเข้ามาภายในพระอุโบสถจะไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป และเมื่อเข้าไป
 ภายในพระอุโบสถสิ่งที่สะดุดตาอีกอย่างหนึ่งก็คือ จิตรกรรมฝาผนังที่มี
 ความสวยงาม
 
 
 
           
 
 
         
 
 

 
            เมื่อเดินออกจากวัด ผ่านประตูทางออกมองไปทางด้านซ้ายมือก็จะ
      พบกับพระที่นั่งบรมพิมาน แต่เราไม่สามารถเข้าไปภายในได้เพราะรัชกาลที่ 5
      โปรดฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช (รัชกาลที่ 6)
     สำหรับใช้เป็นที่ประทับเมื่อจบการศึกษาจากอังกฤษ
 
 
 
 
               
             
 
 
            เดินตรงมาก็จะพบกับ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ซึ่งถ้าคุณเดินผ่านมา
   ผมคิดว่าคุณต้องชักภาพเก็บไว้เป็นแน่นอน
    
 
 
 
 
 
 
 
 
             
                               
 
          สำหรับพระที่นั่งจักรีฯ นี้ชั้นบนสุดใช้สำหรับประดิษฐานพระ
บรมอัฐิของรัชกาลที่ 4 มาจนถึงรัชกาลที่ 8 ตลอดจนพระอัฐิของพระมเหสี
และพระบรมวงศานุวงศ์อื่น ส่วนชั้นกลางเป็นท้องพระโรงและห้องสำหรับ
รับแขก
 
 
 
 
 

                                                    
 
           ออกมานอกวัดก็พบกับร้านค้ามากมาย แต่ก็มีร้านสะดวกซื้อ
อยู่หนึ่งร้านที่น่าแปลกใจก็คือ มันมีรูปลักษณ์ที่แปลกตาได้กลิ่นไอ
ความคลาสสิคของยุคนั้น
 
 
 
 
 
 
 
             
 
   
       และซึ่งขณะนี้เวลา 17.00 น. คงเริ่มหิวกันแล้ว ต้องหาที่เติมพลัง
กันเสียหน่อย ย่านหน้าพระลานกับท่าช้างที่อยู่ใกล้ๆ ก็อุดมไปด้วย
ร้านอาหาร บรรยากาศหน้าตาเป็นยังไงลองมาชมกันดู
 
 
 
 
 
 
         
                     
 
                       
 
 
   การเดินทางกลับ ผมคิดว่าใช้บริการรถเมล์จะสะดวกที่สุด เพราะ   
สนามหลวงเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของสายรถเมล์มีรถเมล์ผ่าน
หลายสายมาก
 
          
 
 
 
                                                   
              
 
 
 
 
                      
 
                
       ส่วนใครที่เบื่อกับการจราจร ผมขอแนะนำให้ใช้บริการเรือด่วนเจ้า
พระยา เพราะเป็นวิธีที่สะดวกมาก  แถมยังได้นั่งกินลมชมวิวสองฝั่งแม่น้ำ
เจ้าพระยา และทริปนี้ถือว่าเป็นทริปที่คุ้มค่าอีกทริปหนึ่งเรยทีเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น